วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สบู่ all abOut Soap สบู่ธรรมชาติทางเลือก (2)

สบู่ all abOut Soap สบู่ธรรมชาติทางเลือก (2) 

 

all abOut Soap สบู่ธรรมชาติทางเลือก (จบ)
การ ตัดสินใจลงทุนในการทำธุรกิจ อะไรสักอย่างหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เพียงแต่ว่าจะนำเงินไปแค่ลงทุนเปิดธุรกิจเพียง เท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการทุก คนควรจะnature-soapsoap สบู่ สบู่ธรรมชาติต้อง ทำคือการเรียนรู้ถึงตัวสินค้าของธุรกิจนั้นให้ลึกซึ้งเป็นสิ่ง ที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะสิ่งนี้เองจะทำให้เราได้รู้ว่าจุดแข็งในการที่จะทำตลาดของธุรกิจเราคือ อะไร

ซึ่งหลังจากที่ คุณนพกร ทองมั่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท I Am Beautiful Co.,Ltd ผู้บริหารร้าน All about Soap ได้ทำการตัดสินใจจะทำธุรกิจ เกี่ยวกับสบู่ทางเลือกหรือสบู่ธรรมชาติ 100% แล้วนั้น เขาได้ศึกษาเกี่ยวกับตัวสินค้าคือเจ้าตัวสบู่อย่างลึกซึ้ง จึงได้ทำให้ เขาสามารถหาจุดขายที่มีความแตกต่าง ให้กับสินค้าของเขาได้

โดย คุณนพกร ทองมั่น บอกว่า สิ่งแรกที่ให้ความสำคัญในการทำธุรกิจคือตัวโปรดักต์หรือสินค้า เพราะการศึกษา และทำความรู้จักกับตัวสินค้าได้อย่างดีตอนแรกในการทำธุรกิจ ถือว่านี่คือการ เริ่มต้นในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากถ้าเราไม่รู้จักสินค้าที่เราจะทำธุรกิจที่ดีพอ จะไม่สามารถต่อยอดในการ ทำตลาดในส่วนอื่นๆ ได้อย่างไม่แข็งแรง เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา สถานที่ โปรโมชั่น เป็นต้น

“ในการศึกษาเรื่องของโปรดักต์ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งนั้นเป็นสิ่งที่เราให้ ความสำคัญกับเรื่องตรงนี้มาก เลยทำ ให้เราได้รู้ว่ากระบวนการผลิตสบู่นั้นมีอยู่ 2 กระบวนการใหญ่ๆ คือ 1.cold process และ hot process แต่สบู่ของ เรานั้นจะเน้นที่ cold process ซึ่งกระบวนการผลิตนี้ไม่ต้องเอาความร้อนจาก ภายนอกไปปรุงแต่งให้กับสบู่ เขาจะเกิด กระบวนการสู่ธรรมชาติของเขาเอง ซึ่งกระบวนการนี้เกิดมาเป็นพันๆ ปีแล้ว และเป็นธรรมชาติที่สุดเพราะเอาวัตถุดิบ ธรรมชาติผสมกับธรรมชาติ”

สำหรับการจะทำธุรกิจผลิตสบู่ทุก คนผลิตได้หมด แต่สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่ง ของในการทำตลาดเกี่ยวกับสบู่นั่นคือ เรื่องของรูปลักษณ์ของแพ็กเกจจิ้ง ที่ถือ เป็นส่วนหนึ่งที่จำเป็นมากและขาดไม่ได้ เพราะถ้าสินค้าดี การนำเสนอดี ลูกค้า เชื่อมั่นในตัวสินค้า แต่รูปลักษณ์ของสินค้ามันแย่ มันก็จะทำให้คะแนนมันลด ลง โอกาสการตัดสินใจมันจะน้อยลง ดังนั้น เราจึงทำสบู่ของเราให้มีรูปลักษณ์ กลิ่นสี ที่สวยงาม แปลกใหม่ อย่างเช่น ทำเป็นรูปร่างเบเกอรี่ หรือไอศกรีม เป็นต้น

“การที่เราออกแบบสบู่ออกมาให้ มีรูปลักษณ์ กลิ่นสี เป็นแบบอาหาร เนื่องจากเราได้แรงบันดาลใจไม่ต่างกับ อาหารการกินทุกวัน แต่ในแง่ของสบู่แทนที่จะนำมากิน แต่กลายเป็นอาหาร สำหรับหล่อเลี้ยงผิวที่มีประโยชน์จากวัตถุดิบธรรมชาติล้วนๆ โดยเราได้สร้างสรรค์สบู่ของเราออกมาหลายสูตรสำหรับ ผิวที่ต่างกันไปเพื่อเอาใจผู้บริโภคที่ชอบ การอาบน้ำด้วยสบู่ธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่งจะแบ่งประเภทผิวมัน ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย โดยสบู่ของเราจะผลิตออกมาใช้ได้ตั้งแต่หัวจดเท้า และต่อไปเราก็จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พิเศษเพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อลูกค้าคนที่มีความรู้ มีประสบการณ์ในการใช้สบู่ธรรมชาติหรือเข้าใจสุขภาพ”

หลังจากที่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับสบู่ ทางเลือกหรือสบู่ธรรมชาติมาได้สักระยะหนึ่งผลตอบรับที่ได้กลับมาจากลูกค้า เป็นอย่างไรนั้น คุณนพกร ได้บอก ต่อถึงเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาในการทำตลาด ถือว่าโชคดีมากเพราะสิ่งที่เราคาดไว้ถูก ต้อง เนื่องจากจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีประสบการณ์และอยากได้สินค้าเกี่ยวกับสบู่ที่ ดีต่อสุขภาพ จึงทำให้กลุ่มผู้บริโภค ตรงนี้โตขึ้น ฐานก็เริ่มขยายเพิ่มขึ้นเพราะ ส่วนใหญ่จะมาจากการบอกต่อปากต่อ ปากเกี่ยวกับสินค้า

“ที่ผ่านมาสินค้าได้รับผลตอบรับ ที่ดี จากช็อปแรกเราเปิดที่คริสตัลปาร์ค เลียบทางด่วน แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่ เอท ทองหล่อ นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ เราได้ลูกค้าที่ใส่ใจ และก็มีกำลังซื้อ เพราะสินค้าพวกนี้จะมีราคาแพง อยู่ใน ระดับบน เพราะก้อนหนึ่งราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 120 บาท แต่เราก็ได้รับผลตอบรับดี จนได้ลูกค้าประจำ และชวนเพื่อน มา เพื่อนชวนเพื่อนมา แบบนี้ เป็นแบบปากต่อปาก จนตอนนี้มีลูกค้าประจำอยากมีร้านแบบเรา”

เขาบอกต่อว่า ตอนนี้บริษัทจึงได้ มีการขายแฟรนไชส์แล้ว และขณะนี้ได้ มีบิสซิเนสพาร์ตเนอร์เซ็นสัญญาแล้ว 4 ราย โดยบิสซิเนสพาร์ตเนอร์ได้ทำการวางแพลน ว่าจะเปิดสาขาต่อไปที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว, อโศก, เดอะเซอร์เคิล ฝั่งธนฯ และบริเวณสยามสแควร์ โดยระบบแฟรนไชส์ของบริษัทจะมีทั้งหมด 3 แบบให้ เลือก คือ สแกลใหญ่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสน พื้นที่ประมาณ 14-20 ตร.ม. ซึ่งราคาดังกล่าวจะร่วมทั้งค่าแฟรนไชส์ ค่าแบรนดิ้งบิสซิเนส ที่จะได้ไลเซ่นส์ทุกอย่าง ค่าตกแต่งร้าน แต่ไม่ร่วมค่าสินค้า ส่วนขนาดที่สองราคาประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท ซึ่งขนาดจะเป็น ครึ่งหนึ่งของอันแรก และสุดท้ายจะเป็น ขนาดเล็กแบบคีออส ราคาประมาณ 3-4 หมื่นบาท

“การทำธุรกิจทุกอย่างมันต้อง เหนื่อย แต่เราถือว่าเราโชคดีที่สิ่งที่เรา คิด เราอยากทำ อยากเป็น มันมีโอกาส เพราะเนื่องมาจากกระแสเรื่องสุขภาพที่มีอยู่มาหลายปี และ เข้มข้นเรื่อยๆ ไม่เคยจางหาย และคาดว่าน่าเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนรักสุขภาพมากขึ้น เราได้ยึดภาพรวม ของกระแสธรรมชาติและเราแฝงตัวไปที่จุดนั้นในการทำธุรกิจ และถือว่า ขณะนี้เราประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่งทีเดียวที่มาถึงจุดนี้ได้”

สบู่

Credit : http://www.siamturakij.com/home/news/print_news.php?news_id=413348139

สบู่ all abOut Soap สบู่ธรรมชาติทางเลือก (1)

all abOut Soap สบู่ธรรมชาติทางเลือก (1)


สบู่ สบู่ธรรมชาติ natural soap
เชื่อ ว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศไหน วัยไหน หรือชาติไหน คงไม่มีใครไม่รู้จักหรือไม่เคยใช้ “สบู่” ในการ นำมาถูผสมกับน้ำเพื่อชำระทำความสะอาดร่างกายที่มาตั้งแต่สมัยโบราณ

เพราะในการใช้ชีวิตประจำวันของ คนทุกคนต้องมีการอาบน้ำกันอยู่ทุกวัน โดยปกติคนส่วนใหญ่เฉลี่ยก็อาบน้ำวันละสองครั้ง และปัจจุบันนี้สบู่ก็มีมากมายหลาย ชนิดให้ได้เลือกใช้ ตามความเหมาะสม และความชอบของแต่ละบุคคล

แต่จะมีใครทราบหรือไม่ว่าสบู่ส่วนใหญ่ที่ใช้กันอยู่ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมที่ เป็นพิษของสารซักฟอก และสาร เคมี และเศษที่หลงเหลือในอุตสาหกรรม จากการกลั่นน้ำมันและปิโตรเลียม เคมีรวมถึงวัตถุกันเสีย ซึ่งสารเหล่านี้ล้วนส่งผลร้ายต่อสัตว์และคน และที่มากกว่า นั้นคือ ผิวสามารถดูดซึมของเสียเหล่านี้ได้ถึง 60%

ด้วยเหตุนี้ คุณนพกร ทองมั่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท I Am Beautiful Co.,Ltd จำกัด ผู้บริหารร้าน All about Soap จึงได้มองเห็นช่องว่างในการทำตลาดสบู่ทางเลือกหรือสบู่ธรรมชาติ 100% เพื่อสุขภาพ

โดย คุณนพกร ได้บอกกับทาง “สยามธุรกิจ” ถึงที่มาที่ไปการทำธุรกิจ ว่า จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจเกี่ยวกับสบู่ ธรรมชาตินั้นในช่วงแรกธุรกิจนี้เป็นธุรกิจ ของพี่ชายของภรรยาที่ได้ทำการผลิตสบู่ ธรรมชาติส่งออกต่างประเทศอยู่ แต่ตอน นั้นยังไม่ได้มีการสร้างแบรนด์สินค้าและ มีขายในประเทศไทย จนพี่ชายของภรรยา ได้ทำการส่งออกสบู่ธรรมชาติไปต่างประเทศจนเป็นเวลา 8 ปี และได้เห็นว่าการ ส่งออกตลาดต่างประเทศนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จึงเริ่มรู้สึกว่าอยากสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองขึ้นมาเพื่อจะได้มีสินค้า วางจำหน่ายเป็นเรื่องเป็นราวในเมืองไทย น่าจะเป็นยุทธศาสตร์ในการสร้างความมั่นคง ทางธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง

“จากการที่พี่ชายภรรยาอยากสร้างแบรนด์สบู่ธรรมชาติขึ้น จึงได้มาปรึกษาผม เพราะเห็นว่าผมเคยได้ทำงานอยู่ด้านวงการ โฆษณามาอย่างยาวนาน ก็พอมีความสามารถ ในการมองตลาดอยู่บ้างและ มีความถนัดใน เรื่องการสื่อสารอยู่บ้าง และประจวบเหมาะ กับตอนนั้นผมยากทำธุรกิจเช่นกัน แต่ก็ตอน นั้นยังมองหาธุรกิจที่ตัวเองอยากทำไม่เจอ และพอพี่ชายภรรยามาปรึกษาผมเลยสนใจ ในการทำธุรกิจนี้จึงได้ร่วมเข้าทำด้วย”

เนื่องจากพอเห็นสินค้าจึงมองเห็นถึงโอกาสและช่องว่างในการทำตลาด เพราะสบู่ ถ้ามองในแง่ของการทำตลาดขั้นพื้นฐาน สบู่นั้นถือเป็นสินค้าที่จำเป็นสำหรับผู้บริโภคทุกคน เนื่องจากคนเราต้องใช้สบู่ในการอาบน้ำชำระ สิ่งสกปรกจากร่างกายทุกวัน วันละสองครั้ง หรือบางคนอาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้ แต่อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมากในการเล็งเห็นแล้วตัดสินใจในการร่วมทำธุรกิจดัง กล่าวคือ ได้มองเห็นช่องว่างของตลาดตรงที่ว่าคนเราเกิดมาพ่อแม่ให้ใช้สบู่แบบไหนก็ใช้ กัน อาจจะเปลี่ยนด้วยตัวเองพอเริ่มโตขึ้น แต่จะมีใครเคยรู้บ้างว่าสบู่ที่ใช้กันอยู่นั้นมาอย่างยาวนานนั้นปลอดภัยกับ ผิวหนังของตัวเองหรือไม่

ดังนั้น จึงมองเห็นว่าสบู่ทางเลือกหรือ สบู่ธรรมชาตินี้จึงเป็นช่องว่างตลาดที่น่าสนใจ เพราะยังมีคนอีก 90% ที่ยังไม่รู้จักสบู่ธรรมชาติว่าคืออะไร แต่ถ้าสามารถทำในคน 90% ตรงนั้น เปลี่ยนมุมมองมารับรู้ถึงข้อดีสบู่ทาง เลือกนี้ แล้วหันมาใช้กันมากขึ้น ก็สามารถสร้างตลาดตรงนี้ขึ้นมาได้ อีกทั้งจากประสบ การณ์ทำงานในแวดวงเอเจนซีมาก่อน จึงมอง ว่าถ้าจะทำตลาดตรงนี้ให้เกิดได้นั้นต้องทำ ให้ไม่เหมือนใคร คือ จะต้องทำครบกระบวน การ เราจะทำซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนอื่นไม่ได้

“เราจึงเริ่มมาจากการตั้งชื่อแบรนด์ ก่อน โดยในตอนแรกคิดไว้ประมาณ 2-3 ชื่อ แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่ชื่อว่า All about Soap ถึงชื่อมันอาจจะไม่ได้ดูโดดเด่นหรือหวือหวา แต่เรามองว่าการที่เราจะมีชื่อแบรนด์สักชื่อหนึ่ง จะต้องดึงมาจากแบบแผนของบริษัท สินค้า และเป้าหมายในอนาคต จึงคิดว่าชื่อดังกล่าว เป็นชื่อที่ตอบโจทย์สิ่งที่เราคิดไว้ได้ทั้งหมด เพราะชื่อนี้สามารถให้เราต่อยอดในการทำธุรกิจของเราได้อีก

เนื่องจากชื่อนี้สามารถสื่อให้คนทุก คนต้องฉุกคิดว่าสบู่สำคัญต่อผิวพรรณเรา และถ้าใครสนใจอะไรเกี่ยวกับสบู่ที่เป็นธรรมชาติไม่ทำร้ายผิวพรรณเข้ามาลอง ถาม มาดู มาซื้อได้ที่นี่ เพราะเราต้องการอยากให้ผู้บริโภคได้ลองรับรู้ว่าสบู่ไม่ใช่แค่การเอา มาผสมกับน้ำถูๆ ตัว ให้ความสะอาดร่างกายเท่านั้น แต่มันมีอะไรที่มากไปกว่านั้นที่จะส่งผลต่อสุขภาพผิวของเรา ถ้าเราได้เข้า ไปศึกษาในเรื่องสบู่อย่างลึกซึ้งแล้วจะเราได้ รู้เลยว่าสบู่แต่ละอย่างมันมีความต่างกัน” นพกร กล่าว
สบู่ สบู่ธรรมชาติ natural soap

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สบู่ธรรมชาติ

สบู่ธรรมชาติ

สบู่ธรรมชาติ
คือสบู่ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการที่เรียกว่า Saponification มันคือการทำปฏิกริยาระหว่า ด่าง และ ไขมัน

soap-nature
soap-nature
all-about-soap ได้แบ่ง การผลิตสบู่ธรรมชาติ ตามกรรมวิธีการผลิต ได้ดังนี้
1. Natural Cold-Process soap สบู่ผลิตด้วยกระบวนการเย็นโดยธรรมชาติ
กรรมวิธีการผลิตรูปแบบนี้  เป็นกระบวนการผลิตสบู่ที่คงความเป็นธรรมชาติได้ดีที่สุดเหมือนเมื่อพันปีที่ แล้วที่เกิดสบู่ขึ้นบนโลกครั้งแรก
การผลิตจะเริ่มจากการนำเอาวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งมี กรด (acid)  คือ น้ำมันที่มีคุณประโยชน์ต่างๆ  ทั้ง hard oil ซึ่งทำหน้าที่สร้างรูปและตัวตนให้กับสบู่ ในฐานะ  based oil เช่น น้ำมันมะพร้าว  น้ำมันปาล์ม
Exotic oil เช่น น้ำมันรำข้าว  น้ำมันมะกอก ซึ่งเป็นน้ำมันหลักของความต้องการที่จะให้สบู่นั้นออกมาแล้วมีประโยชน์ด้านใดบ้าง
ส่วนด่าง (lie) คือตัวประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยา saponification ซึ่งในปัจจุบันนิยมการใช้ sodium hydroxide  กรณีต้องการผลิตสบู่ก้อน หรือ potassium hydroxide กรณีต้องการผลิตสบู่เหลว  แทนการใช้ขี้เถ้าจากการเผาไหม้ มาผสมกับน้ำสะอาดเหมือนอดีต   ทั้งนี้เนื่องจากความไม่เสถียรของค่าความเป็นด่างและความไม่สะดวกในการจัด หา   ซึ่ง sodium hydroxide  และ potassium hydroxide วัตถุดิบทั้งสอง  คือ น้ำเกลือที่ทำให้มีความเข้มข้นสูงด้วยเทคนิคด้านประจุไฟฟ้า  จึงถือได้ว่ายังมีความเป็นธรรมชาติเพียงแต่มีความเข้มข้นมาก เกินกว่าที่ผิวมนุษย์จะรับได้
การเตรียมด่างต้องใช้ sodium hydroxide  หรือ potassium hydroxide ผสมกับน้ำอย่างถูกต้องตามหลักความปลอดภัย  ได้แก่ วิธีการผสม  และอัตราส่วนในการผสม  ซึ่งจะต้องมีความแม่นยำและเที่ยงตรงด้วยการคำนวณหาค่า SAP Value ที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะทำให้ได้สบู่ที่ดีหรือเหมาะสมที่สุดในแต่ละสูตร
จาก นั้น เราสามารถเพิ่มเติมคุณประโยชน์จากธรรมชาติเข้าไปในตัวสบู่ได้ คือเพิ่ม active ingredient ต่างๆ ตามที่ต้องการที่จะให้สบู่นั้นทำหน้าที่  เช่น นม  น้ำผึ้ง  น้ำมันเปลือกมังคุด  ผงสาหร่าย  ผงโคลน ฯลฯ  แล้วเติมแต่งกลิ่นพร้อมประโยชน์ด้วยน้ำมันหอมระเหยตามต้องการ  แต่ต้องมีการคำนวณและประมาณอัตราส่วนที่ใช้อย่างพอเหมาะด้วย
สุดท้ายคือการผสมผสานทุกส่วนเข้าด้วยกันจนข้นได้ที่แล้วนำเข้าเก็บไว้ ที่เรียกว่า ageing จนกว่าสบู่จะคลายฤทธิ์และแปรสภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการอาบน้ำ
จะ เห็นได้ว่าขั้นตอนและรายละเอียดต่างๆ เป็นไปตามธรรมชาติทั้งสิ้น  โดยเราไม่ต้องนำความร้อนจากภายนอกไปเร่งปฏิกิริยา saponification เลย  จึงเป็นที่มาของชื่อ Natural Cold-process soap  ซึ่งสบู่แนวนี้เปรียบเสมือนเราเลือกทานข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสีหรือ เติมแต่ง  เช่น  ข้าวกล้อง  นั่นเอง
2. Natural Hot-process soap สบู่ธรรมชาติผลิตด้วยกระบวนการร้อน
กรรมวิธีการผลิตสบู่แนวนี้  คือการให้ความร้อนจากภายนอกเข้าไปสนับสนุนให้เกิดสบู่สำเร็จรูป ตามลักษณะที่ต้องการแล้วเติมแต่งกลิ่นและสีที่กำหนดไว้  ก็จะได้สบู่ที่มีความสวยงาม  สดใสแวววาว  มีเสน่ห์น่าใช้ เปรียบเทียบได้กับการทานข้าวขาวหอมมะลิ นั่นเอง
ในความเป็นจริงแล้วการผลิตสบู่แนว นี้มีความยุ่งยากซับซ้อนพอสมควรหาก เริ่มตั้งแต่ต้น  คือต้องผ่านกรรมวิธี Cold-process ก่อน แล้วแยกส่วนที่เป็น glycerin ออกมา   ซึ่ง glycerin ก็ถือได้ว่าเป็นสบู่สำเร็จ รูปเบื้องต้น  สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้อย่างปลอดภัย   แต่เมื่อต้องการความสวยงามและเสน่ห์ที่น่าใช้  ก็จำเป็นต้องนำ glycerin มาผ่านกระบวนการความร้อนที่จัดเตรียมไว้  เมื่อละลายจนได้ที่จึงเติมแต่งสีสัน  เพิ่มกลิ่นด้วย Fragrance (น้ำหอมเคมีสังเคราะห์)  เนื่องจาก Essential oil มีราคาสูงและจะสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อถูกความร้อน  จึงไม่เป็นที่นิยมเชิงพานิชย์

BathSoap&Scrub-01
BathSoap&Scrub-01
ความแตกต่างของสบู่ Natural Hot-process soap  คุณภาพสูงและต่ำ  อาจเกิดจากการใช้ glycerin คุณภาพต่ำ ไม่สะอาดและมีจุดเดือดที่สูง  ซึ่งส่วนใหญ่มักผลิตจากไขมันสัตว์ที่ได้จากโรงฆ่าสัตว์  ในประเทศ เพราะมีราคาต่ำกว่า glycerin ที่ผลิตจากพืชที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ  นอกจากราคาที่แตกต่างแล้ว  ประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยก็แตกต่างกันอย่างมากด้วย  ผู้ผลิตสบู่แนวนี้ที่ไม่เน้นคุณภาพจึงมักใช้ Glycerin คุณภาพต่ำจากไขมันสัตว์ เพื่อให้ได้ผลกำไรที่มากกว่า
หากเปรียบเทียบ ในเชิงความเป็นธรรมชาติและประโยชน์แล้ว  สบู่ Natural Hot-process soap  นี้ มีความเป็นธรรมชาติและประโยชน์น้อยกว่า Natural Cold-Process soap  เนื่องจากความร้อนที่นำเข้ามาเติมแต่งในกระบวนการผลิตจะสลายคุณค่าทาง ธรรมชาติออกไป   สบู่แนวนี้จึงไม่สามารถออกแบบหรือเติมแต่งสรรพคุณพิเศษใดๆ ได้อีก

เคล็ดลับหน้าใส เคล็ดลับผิวสวย จากธรรมชาติ

 

Tip 1: Canlendula Oil (Anti-Flamming / Healing)http://www.all-about-soap.com/index.php/en/natural-tips/67-natural-tips.html

Calendula, also known as pot marigold, is an herb whose blossoms yield calendula oil, known
for its skin-care properties. Calendula oil’s regenerative and anti-inflammatory
properties are known to successfully heal a variety of damage. The oil promotes the healing of wounds, burns, and tissue and softens and soothes dry, chapped skin.

Tip 2: Avocado Oil (Deep moisturizing / Enriching)

Avocados contain the skin-nourishing vitamins A and D, as well as linoleic acid, which
strengthens cell walls, making skin stronger. It is safe for all skin types. Avocados provides intense moisturization for dry skin. Applied specifically, this oil repairs damaged skin,
such as on the elbows, knees, or heels.


Tip 3: Olive Oil (Mild & Clean / Moisturizing)

Olive oil is a very good moisturizer, not because it has its own healing properties,but because it attracts external moisture, holds the moisture close to skin, and forms a breathable film to prevent loss of internal moisture. Olive oil does not block the natural function of the skin while performing its own. Pure olive oil soap, and those made with a high percentage of olive oil and no harsh additives, are genrally safe for sensitive skin and babies.

Tip 4: Jojoba Oil (Liquid wax / Superfatting / Soften)

Healthy skin receives a regular flow of sebum which lubricates and softens the skin, and traps
bacteria that we later wash away with soap. Jojoba oil contains more than four times the
waxy esters found within human sebum. When our skin’s system is pushed past its limits,
jojoba oil helps us maintain normal functions while allowing the skin a chance to repair and
rebalance.

Tip 5: Rosehip Seed Oil (Anti-scaly skin / Enriching)

This essential oil has high percentages of gamma-linolenic acid. The human body does
not produce these essential fatty acids (also known as vitamin F), so we must be sure to
include these nutrientsin skin-care products. Rosehip seed oils are easily absorbed by the
skin, encouraging the transport of these essential fatty acids.

Tip 6: Sweet Orange Oil (Nurturing, Gentle & Sweet)

For hundreds of year, orange trees naturalized themselves in the hot and dry climate. Sweet Orange is a sun-safe citrus oil, it isnot phototoxic, so you can use it on your skin even if you
are planning to go out in the sun.


Tip 7: Peppermint Oil (Revitalizing, Refreshing & Energizing)

Peppermint oil is non-toxic. The essential oil has a cooling, pungent menthol aroma, with clean,
sweet top notes. This oil is a moderate skin sensitizer and enhances positivity.

Tip 8: Kaffir Lime Oil (Euphoric, Nurturing & Refreshing)

Kaffir Lime Oil was an ingredient in the earliest formula of “eau de Cologne”, in the 18th
century, this oil has a delightful aroma: fresh and young with strong citrus notes, and a
sweetness as it evaporates. This oil is non-toxic, non-irritating and non-sensitizing
so is safe for all skin types.

Tip 9: Rosemary Oil (Invigorating, Strengthening & Vibrant)

Its strong aroma is concentrated in its vibrant and vigorous green leaves, which
are used as a popular culinary flavouring, as well as a healing herb. Rosemary
essential oil has a powerful effect, so always use moderate amounts. One of the
most fresh and pungent oils, it’s aroma is instantly youthful and deliciously herbaceous.

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สบู่ธรรมชาติ

สบู่ธรรมชาติ

สบู่ธรรมชาติคือสบู่ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการที่เรียกว่า Saponification คือการทำปฏิกริยาระหว่า ด่าง และ ไขมัน ก็จะได้ สบู่ และ กรีเซอร์รีน   สบู่ที่เกิดจากกระบวนนี้เองที่เราเรียกกันว่า สบู่ธรรมชาติ นับเป็นสบู่แท้ที่เราไม่ต้องไปแต่งเติมอะไรอีกเลย สบู่ธรรมชาตินี้ก็มีคุณสมบัติของสบู่ที่ดีที่สุดสำหรับผิวเรา

สบู่-สบู่ธรรมชาติ สบู่

สบู่

สบู่คืออะไร

สบู่ (soap) คือสารเคมีที่เกิดจากการทำปฏิกิริยากันระหว่างโซเดียมไฮดรอกไซด์(ด่าง,โซดาไฟ, (NaOH,) และน้ำมันที่มาจากสัตว์หรือพืช
มี ส่วนผสมระหว่างกรด(ไขมัน)กับเบส(ด่าง) ในอัตราส่วนที่ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดี และไม่เป็นอันตรายต่อผิว คือมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-10
ใช้ชำระล้างร่างกายควบคู่กับการอาบน้ำ ทำมาจากไขมันสัตว์ผสมกับน้ำหอม โซดาไฟ และวัตถุดิบอื่นๆ

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

"สบู่" สบู่ธรรมชาติ ทำได้-ใช้เอง

สบู่ธรรมชาติ ทำได้-ใช้เอง
รายงานโดย :เรื่อง อัคร เกียรติอาจิณ
โพสต์ทูเดย์ วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจครับ จู่ๆ สมองก็แวบนึกอยากทำสบู่ใช้เองมองหาของใกล้ตัวอยู่หลายหน แต่จนแล้วจนรอดยังเกิดอาการมืดแปดด้าน เพราะไม่รู้จะหยิบจะจับอะไรมาผสมกันดี  เสีย เวลาพลิกตำราท้ายุทธภพเป็นนานสองนาน ในที่สุดเราก็มีโอกาสเจอะเจอกับกูรูเรื่องสบู่ตัวเอ้ ซึ่งปัจจุบันกำลังมุ่งหน้าเรียนรู้และปรับปรุงแบรนด์ของตัวเองให้เป็นที่จด จำ
“นพกร ทองมั่น” แบกสบู่มากองตรงหน้า โอ้...ทำไมมันน่ากินจังเลย (เรา คิดในใจและหิวไปด้วย) สีสันช่างสดใสเหลือเกิน ไม่เหมือนสบู่ที่เคยเห็น ลองใช้จมูกพิสูจน์กลิ่น ได้ความหอมอ่อนๆ บางทีก็แซมด้วยกลิ่นที่เราคุ้นชิน
“ของเราเป็นสบู่ธรรมชาติครับ” นพกร เปรยขึ้นด้วยทีท่าชวนสงสัย “ก็เพราะเราใช้วัตถุดิบจำพวกพืช ผัก เครื่องเทศ ผลไม้ สมุนไพร ที่กินได้ เราเลยเรียกว่าสบู่ธรรมชาติ”
ด้วยคอนเซปต์ที่ถูกวางให้เป็น Gourmet Soap จึงไม่แปลกที่สบู่แบรนด์ All about Soap จะมีหน้าคล้ายกับเบเกอรี หรือไอศกรีมตัด
“คอน เซปต์นี้มันก็เลยไม่ต่างกับอาหารที่เรากินทุกวัน แต่ในแง่สบู่แทนที่จะนำมากิน ก็กลายเป็นอาหารสำหรับหล่อเลี้ยงผิวมากกว่า โดยได้สีสัน กลิ่น และประโยชน์จากวัตถุดิบล้วนๆ”

สบู่ แบรนด์นี้เพิ่งวางตลาดได้ไม่นาน เน้นจับกลุ่มผู้ใช้ไฮเอนด์ มีให้เลือกหลายสูตร แต่ละสูตรเหมาะกับสภาพผิวที่ต่างกันไป เช่น สูตรให้ความขาวกระจ่าง สูตรให้ความชุ่มชื่นพิเศษ สูตรเพิ่มความเนียนนุ่ม สูตรดีทอกซ์ สูตรป้องกันสิว และสูตรคนรักกีฬา
“วัตถุ ดิบที่ใช้แต่ละสูตรจะไม่เหมือนกัน โดยเราจะคำนึงถึงสภาพผิวเป็นหลัก บางคนผิวแห้งก็ต้องเพิ่มความชุ่มชื่นมากๆ คนผิวมันควรใช้สบู่ที่ให้ความชุ่มชื่นน้อย หรือคนเล่นกีฬา คนมีปัญหาเรื่องสิวเป็นฝ้า สบู่ที่ทำขึ้นเฉพาะจะเหมาะกว่าสบู่ทั่วไป”
สำหรับ วัตถุดิบที่นิยมนำมาใช้ทำสบู่นั้น แทบไม่น่าเชื่อว่าส่วนมากก็เป็นของใกล้ตัวเรานี่เอง หัวไช้เท้า มะละกอ ทับทิม กานพลู เปลือกมังคุด มะเฟือง แครอต น้ำผึ้ง เมล็ดกาแฟ ลูกยอ ฯลฯ แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ คือ ทองคำเปลว ไม่รู้มาก่อนเลยว่าสามารถนำมาทำสบู่ได้ด้วย
จะ ทำสบู่ใช้เองไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายซะทีเดียว นพกรยืนยันอย่างนั้น แรกเริ่มควรรู้ก่อนว่าสบู่คือการผสมกันระหว่างกรดกับด่าง แค่ 2 สิ่ง นี้ก็เกิดสบู่ได้แล้ว และสบู่ทั่วไปก็ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน จะต่างตรงที่ส่วนผสมอื่นๆ ที่คนทำเพิ่มเข้าไป เพื่อให้มีความตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
“กรดที่บ อกคือไขมันพืชหรือสัตว์ ส่วนด่างคือโซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือโซดาไฟ จากนั้นจะสกัดเอากลีเซอรีนออกไป ทำให้แข็งตัว และมันจะย่อยเป็นเกล็ดสบู่ ทีนี้ค่อยนำไปหลอมและเติมส่วนผสมต่างๆ ตามสูตรของใครของมัน”
เมื่อ รู้ว่าที่มาของสบู่แล้ว ก็ชักสนุกใช่ไหมล่ะ การทำสบู่ธรรมชาตินั้น หัวใจของมันอยู่ที่วัตถุดิบต้องมาจากธรรมชาติจริงๆ หากเลือกได้ไขมันจากพืชย่อมดีกว่า เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันละหุ่ง น้ำมันอโวคาโด น้ำมันรำข้าว น้ำมันทานตะวัน หรือจะใช้ไขมันสัตว์อย่างนมแพะก็เจ๋งไม่แพ้กัน ให้คุณสมบัติเรื่องเนียนนุ่มและชุ่มชื่นดีเยี่ยม
“มอง ในแง่คุณสมบัติการฆ่าเชื้อ การเกิดฟอง และประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูง คือน้ำมันมะพร้าวถ้าในแง่ของรูปทรงน้ำมันปาล์มจะดีมาก แถมราคาถูก ส่วนน้ำมันมะกอกจะเด่นเรื่องให้ความชุ่มชื่น แค่น้ำมัน 3 ชนิดก็ถือว่าโอเคแล้วละสำหรับการทำสบู่ใช้เอง”
ได้ กรดแต่ยังขาดด่างไม่ยากก็ถามหาโซดาไฟชนิดน้ำ (ดีกว่าชนิดแข็ง) ในซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน อย่าเพิ่งตกใจไปว่ามันจะทำร้ายผิวหนังคนเราได้ หากทำถูกต้องตามขั้นตอน ไม่มีผลแน่นอน เพราะนี่คือด่างที่ดีที่สุดของการทำสบู่
“ถ้า อยากได้จากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ต้องใช้น้ำขี้เถ้าเหมือนกับที่คนสมัย โบราณทำ แต่มันจะเสียเวลา เพราะคุณสมบัติโซดาไฟกับน้ำขี้เถ้าใกล้เคียงกัน แต่โซดาไฟมีข้อจำกัดคือเวลาเอามาทำสบู่จะเกิดความร้อน เลยต้องปล่อยทิ้งไว้ หรือเรียกว่าขั้นตอนเอจจิง ให้มันสิ้นฤทธิ์ก่อนประมาณ 21 วันเป็นอย่างต่ำ ค่อยนำสบู่มาใช้ได้”
มาถึงขั้นตอนการทำสบู่ ตวงวัตถุดิบทั้งสองชนิดในอัตราส่วนที่เหมาะสม และอย่าลืมเติมน้ำเปล่าลงไปด้วย กวนให้เข้ากันจนเกิดปฏิกิริยา Saponification และ จับกันเป็นก้อน พร้อมเติมวัตถุดิบอื่นๆ เข้ามา เป็นต้นว่า ผัก ผลไม้ เครื่องเทศ สมุนไพร แต่ต้องมั่นใจว่าไปกันได้ดีกับกรดและด่าง ที่สำคัญหากเติมมากกว่า 2 ชนิด สิ่งที่คำนึงถึงคือสารประโยชน์และความเป็นไปได้จริง เพราะบางชนิดก็อาจไม่ได้อยู่ขั้วเดียวกัน หรือบางชนิดอาจมีคุณสมบัติเด่นด้อยเชิงวิทยาศาสตร์
“ผม เปรียบเทียบอย่างนี้นะ การทำสบู่ก็เหมือนกับการขับรถ ขับรถได้กับขับรถเป็น มันคนละเรื่อง ทำสบู่ได้กับทำสบู่เป็น มันก็คนละเรื่อง แต่ทั้งหมดทั้งมวลผมว่ามันต้องมี 3 สิ่งนี้รวมกัน องค์ความรู้ การฝึกฝน พรสวรรค์ จึงจะสามารถทำสบู่ออกมาได้ดี และการทำสบู่ใช้เองผมก็จะเปรียบเทียบเหมือนการทำอาหารแบบอาจารย์ยิ่งศักดิ์ เมื่อคืนทำแกงเขียวหวานเหลือ ตอนเช้าจะทำอะไรดีล่ะ เพราะมันยังไม่เสีย จะผัดกับข้าวไหม หรือจะกินกับขนมจีน ถ้าไม่ชอบทำเป็นก๋วยเตี๋ยวก็ยังได้
สุด ท้ายไม่ว่าจะทำอะไร สิ่งที่ควรระวังมากๆ แม้จะเป็นการทำสบู่ธรรมชาติ แต่ทุกอย่างมันคือวิทยาศาสตร์ ยิ่งเฉพาะวัตถุดิบอื่นๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาเพื่อกลิ่น หรือประโยชน์ ต้องรู้ว่าอะไรเป็นอย่างไร ถ้าผิดคือมันจะไม่เป็นสบู่เลยนะ”
ด้วย ความที่เมืองไทยอยู่ในเขตร้อน จึงเป็นโชคดีที่มีวัตถุดิบให้เลือกมากมาย กลิ่นหอมจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะผลไม้ เครื่องเทศ สมุนไพร หรือการเพิ่มคุณค่าแก่สบู่ก้อนนั้นๆ จากผักข้างครัว กระทั่งทองคำเปลวที่คุ้นกันดี แต่ไม่นึกว่าจะมีคุณสมบัติบวกต่อผิวพรรณ ก็สามารถนำมาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของสบู่ได้ แทนการใช้สารสังเคราะห์ ซึ่งมีผลร้ายในระยะยาว
อยาก ได้สบู่กลิ่นไหน มีคุณสมบัติพิเศษอะไร สามารถใส่เพิ่มได้ตามใจ สวรรค์ประทานวัตถุดิบเหล่านั้นมาให้ ขาดก็แต่ตัวคนลงมือทำว่าจะสรรค์สร้างอย่างไร ยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบนี้ ทำสบู่ใช้เองช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ และไม่แน่มันอาจกลายเป็นอาชีพเสริมอีกทาง
ล้อมกรอบ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.08-3831-2828 หรือคลิกไปที่ www.all-about-soap.com

Credit: http://www.measwatch.org/autopage/show_page.php?t=29&s_id=156&d_id=153&page=11&start=11