วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

"สบู่" สบู่ธรรมชาติ ทำได้-ใช้เอง

สบู่ธรรมชาติ ทำได้-ใช้เอง
รายงานโดย :เรื่อง อัคร เกียรติอาจิณ
โพสต์ทูเดย์ วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจครับ จู่ๆ สมองก็แวบนึกอยากทำสบู่ใช้เองมองหาของใกล้ตัวอยู่หลายหน แต่จนแล้วจนรอดยังเกิดอาการมืดแปดด้าน เพราะไม่รู้จะหยิบจะจับอะไรมาผสมกันดี  เสีย เวลาพลิกตำราท้ายุทธภพเป็นนานสองนาน ในที่สุดเราก็มีโอกาสเจอะเจอกับกูรูเรื่องสบู่ตัวเอ้ ซึ่งปัจจุบันกำลังมุ่งหน้าเรียนรู้และปรับปรุงแบรนด์ของตัวเองให้เป็นที่จด จำ
“นพกร ทองมั่น” แบกสบู่มากองตรงหน้า โอ้...ทำไมมันน่ากินจังเลย (เรา คิดในใจและหิวไปด้วย) สีสันช่างสดใสเหลือเกิน ไม่เหมือนสบู่ที่เคยเห็น ลองใช้จมูกพิสูจน์กลิ่น ได้ความหอมอ่อนๆ บางทีก็แซมด้วยกลิ่นที่เราคุ้นชิน
“ของเราเป็นสบู่ธรรมชาติครับ” นพกร เปรยขึ้นด้วยทีท่าชวนสงสัย “ก็เพราะเราใช้วัตถุดิบจำพวกพืช ผัก เครื่องเทศ ผลไม้ สมุนไพร ที่กินได้ เราเลยเรียกว่าสบู่ธรรมชาติ”
ด้วยคอนเซปต์ที่ถูกวางให้เป็น Gourmet Soap จึงไม่แปลกที่สบู่แบรนด์ All about Soap จะมีหน้าคล้ายกับเบเกอรี หรือไอศกรีมตัด
“คอน เซปต์นี้มันก็เลยไม่ต่างกับอาหารที่เรากินทุกวัน แต่ในแง่สบู่แทนที่จะนำมากิน ก็กลายเป็นอาหารสำหรับหล่อเลี้ยงผิวมากกว่า โดยได้สีสัน กลิ่น และประโยชน์จากวัตถุดิบล้วนๆ”

สบู่ แบรนด์นี้เพิ่งวางตลาดได้ไม่นาน เน้นจับกลุ่มผู้ใช้ไฮเอนด์ มีให้เลือกหลายสูตร แต่ละสูตรเหมาะกับสภาพผิวที่ต่างกันไป เช่น สูตรให้ความขาวกระจ่าง สูตรให้ความชุ่มชื่นพิเศษ สูตรเพิ่มความเนียนนุ่ม สูตรดีทอกซ์ สูตรป้องกันสิว และสูตรคนรักกีฬา
“วัตถุ ดิบที่ใช้แต่ละสูตรจะไม่เหมือนกัน โดยเราจะคำนึงถึงสภาพผิวเป็นหลัก บางคนผิวแห้งก็ต้องเพิ่มความชุ่มชื่นมากๆ คนผิวมันควรใช้สบู่ที่ให้ความชุ่มชื่นน้อย หรือคนเล่นกีฬา คนมีปัญหาเรื่องสิวเป็นฝ้า สบู่ที่ทำขึ้นเฉพาะจะเหมาะกว่าสบู่ทั่วไป”
สำหรับ วัตถุดิบที่นิยมนำมาใช้ทำสบู่นั้น แทบไม่น่าเชื่อว่าส่วนมากก็เป็นของใกล้ตัวเรานี่เอง หัวไช้เท้า มะละกอ ทับทิม กานพลู เปลือกมังคุด มะเฟือง แครอต น้ำผึ้ง เมล็ดกาแฟ ลูกยอ ฯลฯ แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ คือ ทองคำเปลว ไม่รู้มาก่อนเลยว่าสามารถนำมาทำสบู่ได้ด้วย
จะ ทำสบู่ใช้เองไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายซะทีเดียว นพกรยืนยันอย่างนั้น แรกเริ่มควรรู้ก่อนว่าสบู่คือการผสมกันระหว่างกรดกับด่าง แค่ 2 สิ่ง นี้ก็เกิดสบู่ได้แล้ว และสบู่ทั่วไปก็ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน จะต่างตรงที่ส่วนผสมอื่นๆ ที่คนทำเพิ่มเข้าไป เพื่อให้มีความตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
“กรดที่บ อกคือไขมันพืชหรือสัตว์ ส่วนด่างคือโซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือโซดาไฟ จากนั้นจะสกัดเอากลีเซอรีนออกไป ทำให้แข็งตัว และมันจะย่อยเป็นเกล็ดสบู่ ทีนี้ค่อยนำไปหลอมและเติมส่วนผสมต่างๆ ตามสูตรของใครของมัน”
เมื่อ รู้ว่าที่มาของสบู่แล้ว ก็ชักสนุกใช่ไหมล่ะ การทำสบู่ธรรมชาตินั้น หัวใจของมันอยู่ที่วัตถุดิบต้องมาจากธรรมชาติจริงๆ หากเลือกได้ไขมันจากพืชย่อมดีกว่า เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันละหุ่ง น้ำมันอโวคาโด น้ำมันรำข้าว น้ำมันทานตะวัน หรือจะใช้ไขมันสัตว์อย่างนมแพะก็เจ๋งไม่แพ้กัน ให้คุณสมบัติเรื่องเนียนนุ่มและชุ่มชื่นดีเยี่ยม
“มอง ในแง่คุณสมบัติการฆ่าเชื้อ การเกิดฟอง และประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูง คือน้ำมันมะพร้าวถ้าในแง่ของรูปทรงน้ำมันปาล์มจะดีมาก แถมราคาถูก ส่วนน้ำมันมะกอกจะเด่นเรื่องให้ความชุ่มชื่น แค่น้ำมัน 3 ชนิดก็ถือว่าโอเคแล้วละสำหรับการทำสบู่ใช้เอง”
ได้ กรดแต่ยังขาดด่างไม่ยากก็ถามหาโซดาไฟชนิดน้ำ (ดีกว่าชนิดแข็ง) ในซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน อย่าเพิ่งตกใจไปว่ามันจะทำร้ายผิวหนังคนเราได้ หากทำถูกต้องตามขั้นตอน ไม่มีผลแน่นอน เพราะนี่คือด่างที่ดีที่สุดของการทำสบู่
“ถ้า อยากได้จากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ต้องใช้น้ำขี้เถ้าเหมือนกับที่คนสมัย โบราณทำ แต่มันจะเสียเวลา เพราะคุณสมบัติโซดาไฟกับน้ำขี้เถ้าใกล้เคียงกัน แต่โซดาไฟมีข้อจำกัดคือเวลาเอามาทำสบู่จะเกิดความร้อน เลยต้องปล่อยทิ้งไว้ หรือเรียกว่าขั้นตอนเอจจิง ให้มันสิ้นฤทธิ์ก่อนประมาณ 21 วันเป็นอย่างต่ำ ค่อยนำสบู่มาใช้ได้”
มาถึงขั้นตอนการทำสบู่ ตวงวัตถุดิบทั้งสองชนิดในอัตราส่วนที่เหมาะสม และอย่าลืมเติมน้ำเปล่าลงไปด้วย กวนให้เข้ากันจนเกิดปฏิกิริยา Saponification และ จับกันเป็นก้อน พร้อมเติมวัตถุดิบอื่นๆ เข้ามา เป็นต้นว่า ผัก ผลไม้ เครื่องเทศ สมุนไพร แต่ต้องมั่นใจว่าไปกันได้ดีกับกรดและด่าง ที่สำคัญหากเติมมากกว่า 2 ชนิด สิ่งที่คำนึงถึงคือสารประโยชน์และความเป็นไปได้จริง เพราะบางชนิดก็อาจไม่ได้อยู่ขั้วเดียวกัน หรือบางชนิดอาจมีคุณสมบัติเด่นด้อยเชิงวิทยาศาสตร์
“ผม เปรียบเทียบอย่างนี้นะ การทำสบู่ก็เหมือนกับการขับรถ ขับรถได้กับขับรถเป็น มันคนละเรื่อง ทำสบู่ได้กับทำสบู่เป็น มันก็คนละเรื่อง แต่ทั้งหมดทั้งมวลผมว่ามันต้องมี 3 สิ่งนี้รวมกัน องค์ความรู้ การฝึกฝน พรสวรรค์ จึงจะสามารถทำสบู่ออกมาได้ดี และการทำสบู่ใช้เองผมก็จะเปรียบเทียบเหมือนการทำอาหารแบบอาจารย์ยิ่งศักดิ์ เมื่อคืนทำแกงเขียวหวานเหลือ ตอนเช้าจะทำอะไรดีล่ะ เพราะมันยังไม่เสีย จะผัดกับข้าวไหม หรือจะกินกับขนมจีน ถ้าไม่ชอบทำเป็นก๋วยเตี๋ยวก็ยังได้
สุด ท้ายไม่ว่าจะทำอะไร สิ่งที่ควรระวังมากๆ แม้จะเป็นการทำสบู่ธรรมชาติ แต่ทุกอย่างมันคือวิทยาศาสตร์ ยิ่งเฉพาะวัตถุดิบอื่นๆ ที่จะเพิ่มเข้ามาเพื่อกลิ่น หรือประโยชน์ ต้องรู้ว่าอะไรเป็นอย่างไร ถ้าผิดคือมันจะไม่เป็นสบู่เลยนะ”
ด้วย ความที่เมืองไทยอยู่ในเขตร้อน จึงเป็นโชคดีที่มีวัตถุดิบให้เลือกมากมาย กลิ่นหอมจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะผลไม้ เครื่องเทศ สมุนไพร หรือการเพิ่มคุณค่าแก่สบู่ก้อนนั้นๆ จากผักข้างครัว กระทั่งทองคำเปลวที่คุ้นกันดี แต่ไม่นึกว่าจะมีคุณสมบัติบวกต่อผิวพรรณ ก็สามารถนำมาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของสบู่ได้ แทนการใช้สารสังเคราะห์ ซึ่งมีผลร้ายในระยะยาว
อยาก ได้สบู่กลิ่นไหน มีคุณสมบัติพิเศษอะไร สามารถใส่เพิ่มได้ตามใจ สวรรค์ประทานวัตถุดิบเหล่านั้นมาให้ ขาดก็แต่ตัวคนลงมือทำว่าจะสรรค์สร้างอย่างไร ยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบนี้ ทำสบู่ใช้เองช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ และไม่แน่มันอาจกลายเป็นอาชีพเสริมอีกทาง
ล้อมกรอบ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.08-3831-2828 หรือคลิกไปที่ www.all-about-soap.com

Credit: http://www.measwatch.org/autopage/show_page.php?t=29&s_id=156&d_id=153&page=11&start=11


สบู่ธรรมชาติผลิตด้วยกระบวนการร้อน Natural Hot-process soap

Natural Hot-process soap สบู่ธรรมชาติผลิตด้วยกระบวนการร้อน
กรรมวิธีการผลิตสบู่แนวนี้  คือการให้ความร้อนจากภายนอกเข้าไปสนับสนุนให้เกิดสบู่สำเร็จรูป ตามลักษณะที่ต้องการแล้วเติมแต่งกลิ่นและสีที่กำหนดไว้  ก็จะได้สบู่ที่มีความสวยงาม  สดใสแวววาว  มีเสน่ห์น่าใช้ เปรียบเทียบได้กับการทานข้าวขาวหอมมะลิ นั่นเอง
ในความเป็นจริงแล้วการผลิตสบู่แนวนี้มีความยุ่งยากซับซ้อนพอสมควรหากเริ่มตั้งแต่ต้น  คือต้องผ่านกรรมวิธี Cold-process ก่อน แล้วแยกส่วนที่เป็น glycerin ออกมา   ซึ่ง glycerin ก็ถือได้ว่าเป็นสบู่สำเร็จรูปเบื้องต้น  สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้อย่างปลอดภัย   แต่เมื่อต้องการความสวยงามและเสน่ห์ที่น่าใช้  ก็จำเป็นต้องนำ glycerin มาผ่านกระบวนการความร้อนที่จัดเตรียมไว้  เมื่อละลายจนได้ที่จึงเติมแต่งสีสัน  เพิ่มกลิ่นด้วย Fragrance (น้ำหอมเคมีสังเคราะห์)  เนื่องจาก Essential oil มีราคาสูงและจะสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อถูกความร้อน  จึงไม่เป็นที่นิยมเชิงพานิชย์

ความแตกต่างของสบู่ Natural Hot-process soap  คุณภาพสูงและต่ำ  อาจเกิดจากการใช้ glycerin คุณภาพต่ำ ไม่สะอาดและมีจุดเดือดที่สูง  ซึ่งส่วนใหญ่มักผลิตจากไขมันสัตว์ที่ได้จากโรงฆ่าสัตว์  ในประเทศ เพราะมีราคาต่ำกว่า glycerin ที่ผลิตจากพืชที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ  นอกจากราคาที่แตกต่างแล้ว  ประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยก็แตกต่างกันอย่างมากด้วย  ผู้ผลิตสบู่แนวนี้ที่ไม่เน้นคุณภาพจึงมักใช้ Glycerin คุณภาพต่ำจากไขมันสัตว์ เพื่อให้ได้ผลกำไรที่มากกว่า
หากเปรียบเทียบในเชิงความเป็นธรรมชาติและประโยชน์แล้ว  สบู่ Natural Hot-process soap  นี้ มีความเป็นธรรมชาติและประโยชน์น้อยกว่า Natural Cold-Process soap  เนื่องจากความร้อนที่นำเข้ามาเติมแต่งในกระบวนการผลิตจะสลายคุณค่าทางธรรมชาติออกไป   สบู่แนวนี้จึงไม่สามารถออกแบบหรือเติมแต่งสรรพคุณพิเศษใดๆ ได้อีก

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สบู่สำหรับผิวหน้า เคล็ดลับหน้าใส หน้าเด้ง


Calendula Facial Bar 100g
Calendula has been used on injuries to
reduce inflammation and as an anti-
septic against infection. It has been used
to treat a variety of skin disorders, ranging
from skin ulcerations to eczema. One of
its greatest benefits is to relieve eruptive
skin disorders such as shingles, a viral
infection. It is considered by many to be
an effective detoxifying herb.

Natural Ingredients: Sweet Almond
Oil, Infused Calendula Oil, Olive Oil,
Olive Butter, Coconut Oil, Palm Oil,
Cocoa Butter, Grape Seed Oil, Sodium
Hydroxide, Water, Rose Geranium Oil.

Use daily and keep out of eyes.


สบู่ธรรมชาติ

สบู่ธรรมชาติ
       คือสบู่ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการที่เรียกว่า Saponification มันคือการทำปฏิกริยาระหว่า ด่าง และ ไขมัน
all-about-soap ได้แบ่ง การผลิตสบู่ธรรมชาติ ตามกรรมวิธีการผลิต ได้ดังนี้
1. Natural Cold-Process soap สบู่ผลิตด้วยกระบวนการเย็นโดยธรรมชาติ

กรรมวิธีการผลิตรูปแบบนี้  เป็นกระบวนการผลิตสบู่ที่คงความเป็นธรรมชาติได้ดีที่สุดเหมือนเมื่อพันปีที่ แล้วที่เกิดสบู่ขึ้นบนโลกครั้งแรก
การผลิตจะเริ่มจากการนำเอาวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งมี กรด (acid)  คือ น้ำมันที่มีคุณประโยชน์ต่างๆ  ทั้ง hard oil ซึ่งทำหน้าที่สร้างรูปและตัวตนให้กับสบู่ ในฐานะ  based oil เช่น น้ำมันมะพร้าว  น้ำมันปาล์ม

Exotic oil เช่น น้ำมันรำข้าว  น้ำมันมะกอก ซึ่งเป็นน้ำมันหลักของความต้องการที่จะให้สบู่นั้นออกมาแล้วมีประโยชน์ด้านใดบ้าง
ส่วนด่าง (lie) คือตัวประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดปฏิกิริยา saponification ซึ่งในปัจจุบันนิยมการใช้ sodium hydroxide  กรณีต้องการผลิตสบู่ก้อน หรือ potassium hydroxide กรณีต้องการผลิตสบู่เหลว  แทนการใช้ขี้เถ้าจากการเผาไหม้ มาผสมกับน้ำสะอาดเหมือนอดีต   ทั้งนี้เนื่องจากความไม่เสถียรของค่าความเป็นด่างและความไม่สะดวกในการจัด หา   ซึ่ง sodium hydroxide  และ potassium hydroxide วัตถุดิบทั้งสอง  คือ น้ำเกลือที่ทำให้มีความเข้มข้นสูงด้วยเทคนิคด้านประจุไฟฟ้า  จึงถือได้ว่ายังมีความเป็นธรรมชาติเพียงแต่มีความเข้มข้นมาก เกินกว่าที่ผิวมนุษย์จะรับได้

การเตรียมด่างต้องใช้ sodium hydroxide  หรือ potassium hydroxide ผสมกับน้ำอย่างถูกต้องตามหลักความปลอดภัย  ได้แก่ วิธีการผสม  และอัตราส่วนในการผสม  ซึ่งจะต้องมีความแม่นยำและเที่ยงตรงด้วยการคำนวณหาค่า SAP Value ที่ถูกต้องเท่านั้นที่จะทำให้ได้สบู่ที่ดีหรือเหมาะสมที่สุดในแต่ละสูตร

จากนั้น เราสามารถเพิ่มเติมคุณประโยชน์จากธรรมชาติเข้าไปในตัวสบู่ได้ คือเพิ่ม active ingredient ต่างๆ ตามที่ต้องการที่จะให้สบู่นั้นทำหน้าที่  เช่น นม  น้ำผึ้ง  น้ำมันเปลือกมังคุด  ผงสาหร่าย  ผงโคลน ฯลฯ  แล้วเติมแต่งกลิ่นพร้อมประโยชน์ด้วยน้ำมันหอมระเหยตามต้องการ  แต่ต้องมีการคำนวณและประมาณอัตราส่วนที่ใช้อย่างพอเหมาะด้วย

สุดท้ายคือการผสมผสานทุกส่วนเข้าด้วยกันจนข้นได้ที่แล้วนำเข้าเก็บไว้ ที่เรียกว่า ageing จนกว่าสบู่จะคลายฤทธิ์และแปรสภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการอาบน้ำ

จะเห็นได้ว่าขั้นตอนและรายละเอียดต่างๆ เป็นไปตามธรรมชาติทั้งสิ้น  โดยเราไม่ต้องนำความร้อนจากภายนอกไปเร่งปฏิกิริยา saponification เลย  จึงเป็นที่มาของชื่อ Natural Cold-process soap  ซึ่งสบู่แนวนี้เปรียบเสมือนเราเลือกทานข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสีหรือ เติมแต่ง  เช่น  ข้าวกล้อง  นั่นเอง

2. Natural Hot-process soap สบู่ธรรมชาติผลิตด้วยกระบวนการร้อน

กรรมวิธีการผลิตสบู่แนวนี้  คือการให้ความร้อนจากภายนอกเข้าไปสนับสนุนให้เกิดสบู่สำเร็จรูป ตามลักษณะที่ต้องการแล้วเติมแต่งกลิ่นและสีที่กำหนดไว้  ก็จะได้สบู่ที่มีความสวยงาม  สดใสแวววาว  มีเสน่ห์น่าใช้ เปรียบเทียบได้กับการทานข้าวขาวหอมมะลิ นั่นเอง

ในความเป็นจริงแล้วการผลิตสบู่แนวนี้มีความยุ่งยากซับซ้อนพอสมควรหาก เริ่มตั้งแต่ต้น  คือต้องผ่านกรรมวิธี Cold-process ก่อน แล้วแยกส่วนที่เป็น glycerin ออกมา   ซึ่ง glycerin ก็ถือได้ว่าเป็นสบู่สำเร็จรูปเบื้องต้น  สามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้อย่างปลอดภัย   แต่เมื่อต้องการความสวยงามและเสน่ห์ที่น่าใช้  ก็จำเป็นต้องนำ glycerin มาผ่านกระบวนการความร้อนที่จัดเตรียมไว้  เมื่อละลายจนได้ที่จึงเติมแต่งสีสัน  เพิ่มกลิ่นด้วย Fragrance (น้ำหอมเคมีสังเคราะห์)  เนื่องจาก Essential oil มีราคาสูงและจะสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อถูกความร้อน  จึงไม่เป็นที่นิยมเชิงพานิชย์



ความแตกต่างของสบู่ Natural Hot-process soap  คุณภาพสูงและต่ำ  อาจเกิดจากการใช้ glycerin คุณภาพต่ำ ไม่สะอาดและมีจุดเดือดที่สูง  ซึ่งส่วนใหญ่มักผลิตจากไขมันสัตว์ที่ได้จากโรงฆ่าสัตว์  ในประเทศ เพราะมีราคาต่ำกว่า glycerin ที่ผลิตจากพืชที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ  นอกจากราคาที่แตกต่างแล้ว  ประโยชน์ตลอดจนความปลอดภัยก็แตกต่างกันอย่างมากด้วย  ผู้ผลิตสบู่แนวนี้ที่ไม่เน้นคุณภาพจึงมักใช้ Glycerin คุณภาพต่ำจากไขมันสัตว์ เพื่อให้ได้ผลกำไรที่มากกว่า

หากเปรียบเทียบในเชิงความเป็นธรรมชาติและประโยชน์แล้ว  สบู่ Natural Hot-process soap  นี้ มีความเป็นธรรมชาติและประโยชน์น้อยกว่า Natural Cold-Process soap  เนื่องจากความร้อนที่นำเข้ามาเติมแต่งในกระบวนการผลิตจะสลายคุณค่าทาง ธรรมชาติออกไป   สบู่แนวนี้จึงไม่สามารถออกแบบหรือเติมแต่งสรรพคุณพิเศษใดๆ ได้อีก

สบู่ ความสำคัญของสบู่

 สบู่  ความสำคัญของสบู่
       สบู่ คือ ของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ทุกวันเราอาบน้ำต้องใช้สบู่เพื่อการขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ซึ่งคนส่วนมากมักจะเลือกสบู่ที่สามารถทำความสะอาดได้ดีมากๆ จนไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดกับผิวในภายหลัง 


      สบู่เป็นผลจากปฏิกิริยาเคมีของส่วนผสมพื้นฐาน คือน้ำด่าง (Sodium Hydroxide หรือ Potassium Hydroxide) กับน้ำมัน ซึ่งจะเป็นน้ำมันพืชหรือน้ำมันสัตว์ก็ได้ ปฏิกิริยาเคมีนี้เรียกว่า Saponification ซึ่งจะทำให้ได้เกลือในรูปของแข็งที่ลื่นและมีฟอง ที่เราเรียกกันว่าสบู่  โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มักจะใช้กากน้ำมันปิโตรเลียมเป็นเบสในการทำสบู่ ซึ่งโมเลกุลของน้ำมันปิโตรเลียมจะมีขนาดใหญ่จนผิวไม่สามารถซึมซับได้ และยังก่อให้เกิดอาการอุดตันได้อีกด้วย
     สบู่,สบู่ธรรมชาติ, สบู่สมุนไพร, natural soap สบู่  สบู่้สบู่ all about soap เราคัดสรรน้ำมันจากพืชหลากหลายชนิดจากหลายมุมโลกเพื่อให้ได้สบู่ที่ มีคุณสมบัติที่หลากหลายและเหมาะกับทุกสภาพผิว และยังใช้ศาสตร์ของการผสมส่วนประกอบต่างๆด้วยปริมาณที่ถูกต้อง นอกจากนี้ส่วนประกอบสำคัญทุกชนิดที่ใช้ในกระบวนการผลิตยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ ได้จากธรรมชาติ คุณจึงมั้นใจได้ว่าไม่มีสารสังเคราะห์ใดๆ เจือปนอยู่ในสบู่ all about soap จึงเป็นสบู่ธรรมชาติที่มีความปลอดภัย